วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พาเที่ยว "โคเรียนทาวน์" สาวกเกาหลีห้ามพลาด!!!

♥안녕하세요!!! อันยองฮาเซโย♥

            สวัสดีค่าาา ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของเราน้าา ทักทายแบบเกาหลีเล็กน้อย เพราะวันนี้เราจะพาไปเที่ยว "โคเรียนทาวน์!!!"
           โคเรียนทาวน์ (Korean town) หรือสุขุมวิทพลาซ่า ปกติแล้วคนไทยจะคุ้นชินกับย่านไชน่าทาวน์หรือเยาวราชซะมากกว่านะ ที่เยาวราชก็จะมีร้านขายอาหารจีนๆ ขายของจีนๆ บรรยากาศจีนๆใช่ไหมล่ะะ ที่โคเรียนทาวน์ก็เหมือนกัน มีร้านอาหารเกาหลีให้เลือกทานกันมากมายหลายร้านเลย ย้ำว่าหลายร้านมากๆเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว นอกจากร้านอาหารแล้วก็ยังมีร้านขายของเกาหลี ขนมเกาหลี ขายโสมเกาหลีก็มี หรือพวกร้านเครื่องสำอางค์ ร้านสปาอะไรพวกนี้ก็มีนะะะ
แผนที่korean town
ที่มา http://seoulcafe2013.blogspot.com/2013/10/blog-post.html
              การเดินทาง korean town ตั้งอยู่ที่ปากซอยสุขุมวิท12ค่ะ  วิธีการเดินทางที่ง่ายที่สุดก็คือนั่ง BTS หรือ MRTนั่นเองง  ถ้านั่งBTS ก็ให้นั่งไปลงสถานีอโศก ไม่ก็สถานีนานาก็ได้นะ เพราะโคเรียนทาวน์มันอยู่ตรงกลางระหว่างสองสถานีนี้เลย  ถ้านั่งMRTก็ลงสถานีสุขุมวิทจ้าา  เสร็จแล้วก็เดินโลด ไม่ไกลมากนะเดินได้ๆ
               ส่วนเราสะดวกนั่ง MRT แจ้  นั่งมาจากสามย่านลงสุขุมวิท 25บาทเองง  ใครต้องการโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินแล้วอยากทราบราคาก่อนก็ไปที่เว็บนี้ http://www.bangkokmetro.co.th/pagerate4.aspx  เก๋ไก๋มาก  มันจะให้เราใส่สถานีต้นทางกับปลายทาง  แล้วก็จะคำนวณค่าโดยสารแล้วก็เวลาการเดินทางให้เรียบร้อยเลยย
นั่งmrtกันน ซื้อเหรียญก่อนๆ

ลงสถานีสุขุมวิทจ้าาาา

ออกมาทางออกที่3นะ มันจะมีทางเชื่อมกับbtsอโศก ลงตรงฝั่งตรงข้ามterminal21อ่ะะะ จากนั้นก็เดินโลดดด เดินไปเรื่อยๆเลย ถ้าเดินผ่านอาคารไทม์สแควร์กับโรงแรมเชอราตันแกรนด์แสดงว่ามาถูกทางแล้วนะฮะะ 5555 เดินจนถึงซอยสุขุมวิท12เลยจ้าา หาไม่ยาก ติดถนนใหญ่เลย เดินไม่ไกลนะสำหรับเรา ไม่รู้สำหรับคนอื่นไกลป่าว55555

 
 
 
ถึงแล้ววววววววว Korean town ที่รอคอย สภาพดูร้างๆนะ55555 ผิดคาดนิดๆ นึกภาพไว้สวยงามสไตล์เกาหลีกว่านี้
 
บรรยากาศภายในแจ้ เราไปตอนวันเสาร์ เที่ยงๆบ่ายๆ ประมาณนั้น กะไปกินข้าวเที่ยงเลย  คนก็ไม่ได้เยอะพลุกพล่านใดๆ แต่ก็ไม่ได้เงียบเหงามาก
มันมีหลายชั้นนะ ไม่รู้มีกี่ชั้น55555 แต่ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น2ละมันดูเงียบเหงา ไร้ซึ่งผู้คนมากๆ เลยลงมาดีกว่า ไม่ดงไม่เดินละ เดินดูแต่ชั้น1เลย
 
 
อันนี้เหมือนชั้นใต้ดินจะเป็นที่จอดรถนะะ มีบันไดเดินขึ้น-ลงให้ด้วยจ้าา
 
บรรยากาศภายในค่าา

ร้านขายของเกาหลี
 ร้านนี้ขายของเกาหลีทุกอย่างเลยย เราไม่ได้เข้าไปนะ แต่มองเข้าไปแล้วเห็นตั้งแต่หม้อต้ม กระทะ อุปกรณ์ครัวต่างๆ ไปจนถึงขนมเกาหลี ไอติมเกาหลีเลยทีเดียว

 
ส่วนร้านนี้ก็ไม่ได้เข้าไปเหมือนกัน แต่มองเข้าไปแล้วจะเป็นพวกขนมเกาหลีต่างๆ น่าทานมากกกก อยากเข้าไปเดินชมดมกลิ่นขนมมากแต่เพื่อนเร่ง จะไปอีกที่ต่อเลยไม่มีเวลาเข้าไป
 

คุณเพื่อน เสนอหน้าจัง คนจะถ่ายรูปร้านอาหาร -_-

ร้านอาหารเกาหลีมีเยอะมากกกกกกก
ตรงที่บริเวณชั้น1 ที่เราเดินคือเต็มไปด้วยร้านอาหารเกาหลีเลยค่ะ ซึ่งนั่นก็เป็นจุดมุ่งหมายในทริปนี้อยู่แล้ว55555 แต่มันเยอะมากกกก จนเลือกร้านไม่ถูกอ่ะ เดินวนอยู่หลายรอบมากๆ555 โดยแต่ละร้านเค้าจะมีเมนูอยู่หน้าร้านให้เราเปิดดูนะคะ บอกราคาเสร็จสรรพเลย เราก็ไปยืนดูอยู่หลายร้าน แต่มันก็เหมือนๆกันอ่ะ ไม่รู้จะเลือกร้านไหนดี5555
           เดินๆไปเจอร้านนึงแปะโปสเตอร์2PMพร้อมลายเซ็นไว้หน้าร้านจ้าาา วิญญาณติ่งเข้าสิง บอกเพื่อนเอาร้านนี้แหละๆๆ ดูดีสุดแล้วๆๆ 555555

 
ร้านที่ว่าก็คือร้าน "เมียงคา" นั่นเองง เราว่าบรรยากาศหน้าร้านมันดูดีสุดละนะ
 
โปสเตอร์2PM จ้าาาา อิอิ แปะอยู่หน้าร้านเชิญชวนให้เข้าไปมาก
ตอนแรกเรานึกว่าแปะโปสเตอร์ไว้เฉยๆนะ แต่กลับบ้านมาอ่านรีวิวร้านนี้ละเขาบอกว่าทูพีเอ็มเคยมากิน...กรี๊ดดดดดดดดดดด
 
บรรยากาศภายในร้านฮะะะะ มีที่ดูดควันสำหรับปิ้งย่างด้วยนะ แต่เราไม่ได้กินปิ้งย่าง แพง ไม่มีตัง55


 
ในร้านมีโทรทัศน์2เครื่อง  เครื่องนึงเปิดรายการเกาหลี อีกเครื่องรู้สึกจะเป็นรายการทำอาหารของร้านมั้ง


 
ในร้านมีลายเซ็นเต็มไปหมดเลยย ติดเต็มฝาผนังเลยค่ะ แล้วก็มีพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเทพฯด้วยค่ะ ไม่ธรรมดานะเนี่ยร้านนี้


อุปกรณ์การรับประทาน *_*
 ที่ร้านนี้ใช้ช้อนกับตะเกียบโลหะ ให้อารมณ์แบบเกาหลีแท้ๆเลยยย

เครื่องเคียง
พอสั่งอาหารเสร็จ เครื่องเคียงก็มากันเต็มโต๊ะเลยค่าาา มีตั้ง9อย่างแหนะ รสชาติก็พอใช้ได้นะะ  โดยเราสั่งบิบิมบัพ ต็อกบกกี แล้วก็กิมจิชิเกจ้าา
 
 
เริ่มด้วยกิมจิชิเก หรือว่าซุปกิมจินั่นเองจ้าา มาพร้อมข้าวหนึ่งถ้วย  อร่อยมากกกนะ ชอบมาก มีใส่หมูสามชั้นมาด้วยเล็กน้อย อร่อยสุดในที่สั่งมาละ5555 ไม่เผ็ดด้วยนะ คนไม่ทานเผ็ดกินได้สบายๆเลย เพราะเราก็ไม่ทานเผ็ด 


ต่อด้วยต็อกบกกีจ้าาา สำหรับคนที่ไม่รู้จัก มันคือเค้กข้าวของเกาหลีอ่ะ เอามาผัดๆซอส ใส่ผักไรงี้  เราว่าจานนี้มันแปลกๆอ่ะ มันหวานยังไงไม่รู้ ปกติที่เคยกินมันต้องเผ็ดๆป่ะ อันนี้มันหวานนนนนนอ่ะ  ส่วนแป้งต็อกก็โอเคนะ ไม่นิ่มไม่เหนียวเกินไป
 
 
เมนูสุดท้ายยย บิบิมบัพ หรือ ข้าวยำเกาหลีนั่นเองง บอกก่อนว่าเราสั่งเป็นแบบไม่ใช่หม้อหินร้อนอ่ะ เพราะถ้าแบบชามธรรมดาที่เราสั่งมัน200 แต่ถ้าแบบชามหินร้อนมัน220 ด้วยความงกเลยสั่งแบบธรรมดาสองร้อยพอ5555 พนักงานรับออเดอร์เค้าก็บอกเราแล้วว่าถ้าแบบหม้อหินมันจะอร่อยกว่านะ แต่เราไม่เอาเพราะคิดว่ามันคงไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก แค่ชามใส่ข้าว


 
พอเอามาเสิร์ฟเท่านั้นแหละ งงเลย555555 ปกติก็เคยกินแต่แบบชามหิน และพนักงานก็มายำข้าวให้ที่โต๊ะไรงี้  อันนี้มาเป็นชามสแตนเลส(มั้ง ดูไม่เป็น55)  แล้วก็เสิร์ฟพร้อมซุปสาหร่ายกับซอสโคชูจังใส่ขวดมาให้เรายำเอง

 
แล้วข้าวมันไม่ร้อนด้วยอ่ะะะะ นี่คือประเด็น  ละไข่มาเป็นไข่ดาวสุกๆเลยจ้าา เพราะมันไม่ร้อนไงง ถ้ามาดิบเดี๋ยวไข่ไม่สุกอีก
 
 
  อ่ะๆๆ โอเคๆๆ ทำใจได้แล้วก็จัดการบีบซอสโคชูจังใส่เลยค่าา ใส่เยอะๆเลยจะได้อร่อยๆๆๆ
 
    เสร็จแล้วก็ยำๆๆๆ คลุกๆๆๆ ได้ออกมาหน้าตาแบบนี้เลย ก็ไม่ค่อยคุ้นชินกับการเห็นผักเป็นผัก แตงกวาสีเขียวๆในพิบิมบัพเท่าไหร่ เพราะปกติที่ทานก็จัดแดงมาทั้งชามเลย ดูไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร อันไหนผักอะไร ทำให้เรากินๆไป อร่อยดี แล้วสเน่ห์ของบิบิมบัพก็คือข้าวที่ไหม้ๆติดก้นถ้วยใช่ไหมล่ะะ ซึ่งแน่นอนว่าชามนี้ไม่มี555555 เราว่ามันไม่ร้อนแล้วไม่อร่อยอ่ะะะะ ผักดิบไป5555 กินเกือบไม่หมด บ่ายเบี่ยงกันกินกับเพื่อน  แนะนำเลยว่าสั่งแบบชามหินร้อนดีกว่า เพิ่ม20บาทเพื่อคุณภาพที่ดีกว่า5555 ในเมนูเขียนว่า โดลซด บิบิมบัพ อะไรประมาณนี้แหละ
 
 
พอทานจะเสร็จ พนักงานก็มาเสิร์ฟน้ำถ้วยนี้  ไม่มีการบอกเลยนะว่ามันคือน้ำอะไร ปล่อยให้เรานั่งมองนั่งดมนั่งเดากันเอง5555 ดมละได้กลิ่นเหมือนขิง พอชิมละหวานๆ ไม่มีกลิ่นขิงเลย ชิมไปชิมมา อ้าว มีข้าวอยู่ในน้ำด้วย ก็คงเป็นน้ำข้าวผสมน้ำขิงมั้ง5555 ไม่รู้อ่ะ เดาๆเอา แต่เรากินไปแต่น้ำ ไม่กล้ากินข้าว
 
 สรุป  ค่าเสียหายมื้อนี้   บิบิมบัพ         200 บาท
                                      กิมจิชิเก        200 บาท
                                      ต็อกบกกี       200บาท
                                      โค้ก 1 ขวด    30บาท
กิมจิชิเกอร่อยสุดนะ แนะนำๆ555555
          
               ก็ถ้าใครอยากลองมาชิมอาหารเกาหลีแบบต้นตำรับ อยากทานขนมเกาหลีแท้ๆ หรือกำลังหาวัตถุดิบ เครื่องปรุงต่างๆในการทำอาหารเกาหลี ต้องมาที่นี่เลยแหละ  มีทุกอย่างที่เกี่ยวกับเกาหลี  ร้านอาหารก็มีหลายร้านมากๆเลยนะ วันหลังเราก็จะไปลองร้านอื่นบ้าง55555 อยากไปกินบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง อิ_อิ





 

7 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก

    ตอบลบ
  2. พี่คะๆ ที่บอกว่าอยากกินบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างนี่ในกรุงเทพมีแถวหนบ้างคะ ใจจริงอยากไปโคเรียนทาวน์มากมาย แต่พี่ชายเค้าอยากกินปิ้งย่างอะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอแนะนำถ้าหาที่ไปเพิ่มเติมค่ะ ร้านชื่อโคชิเร อยู่แถวๆสุขุมวิท แต่จำไม่ได้ซอยไร แต่ในเน็ตมีข้อมูลนะ หมู ผัก เครื่องเคียง 9 ชนิดเติมได้ไม่อั้น บริการน้ำเปล่าฟรี มีอาหารจานเดียวให้เลือกแต่ไม่บุฟเฟ่ อร่อยได้อารมณ์เกาหลีพอสมควร เคยไปแต่ช่วงเสาร์ทิตย์คนมักจะเต็มร้าน ครึ่งหนึ่งที่ไปกินเป็นคนเกาหลี ราคาเหมาะสมกับคุณภาพ

      ป.ล ถ้าจำไม่ผิดที่ร้านจะไม่มีน้ำอัดลมขาย สามารถข้ามถนนไปซื้อน้ำอัดลมฝั่งตรงข้ามมากินได้ ส่วนที่ร้านมีขาย เบียร์ โซจู ไวน์ข้าว

      ลบ
  3. ไม่รู้แจ้ จากเจ้าของบล็อก

    ตอบลบ
  4. ไม่รู้แจ้ จากเจ้าของบล็อก

    ตอบลบ
  5. แต่ล่ะร้าน อาหารแพงรึป่าวครับ ถูกสุดแพงสุดเท่าไร

    ตอบลบ